.ความสามารถใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับ Autodesk Revit Cloud Rendering.
.ด้วยการปรับปรุงครั้งสำคัญที่จะทำให้ผลงานการเรนเดอร์ของคุณสวยงามและสมจริงกว่าที่เคย.
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา Autodesk ได้มีการประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงครั้งสำคัญของ Autodesk Revit Cloud Rendering บริการผ่านระบบคลาวด์จาก Autodesk เพื่อการเรนเดอร์ผลงานสถาปัตยกรรมความละเอียดสูง ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ Autodesk Revit ทั้งในรูปแบบของการ Subscription และ Maintenance Plan
โดยการปรับปรุงของบริการ Autodesk Revit Cloud Rendering ในครั้งนี้ มาพร้อมกับการพัฒนาความสามารถในการเรนเดอร์ผลงานให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้งานคุณสมบัติใหม่ ๆ เหล่านี้ได้แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา
Quality improvements with new rendering engine
หนึ่งในการปรับปรุงที่สำคัญในครั้งนี้ คือ การปรับปรุงคุณภาพในการเรนเดอร์ผลงาน ทั้งในการเรนเดอร์แบบ Standard และ Final นอกจากนี้ด้วย Denoising อัลกอรึธึมที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อขจัดจุดสีหรือสิ่งรบกวนภายในภาพ จะช่วยทำให้งานเรนเดอร์ของคุณออกมาสวยงามและมีคุณภาพมากกว่าที่เคย
Materials Appearance Consistency with Revit in-product
ที่ผ่านมาในการเรนเดอร์ผลงานของคุณผ่านระบบคลาวด์ จะมีการใช้ข้อมูลวัสดุแบบเดิมจาก Mental Ray ซึ่งส่งผลทำให้เกิดผลงานที่มีลักษณะแตกต่างจากการเรนเดอร์ในซอฟต์แวร์ Autodesk Revit แต่ด้วยการปรับปรุงในครั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทั้งการเรนเดอร์ในซอฟต์แวร์และการเรนเดอร์ผ่านระบบคลาวด์จะมีการใช้ข้อมูล Shader Codebase เดียวกัน
Lights enhancement
จากปัญหาที่ผู้ใช้งานพบในการเรนเดอร์ผลงานของคุณผ่าน Autodesk Revit Cloud Rendering ด้วยเอนจิ้นเวอร์ชันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นความมืดของแสงในบริเวณมุมของพื้นที่ หรือปัญหาที่เกิดจากแสงในบริเวณพื้นที่ที่ใกล้กับพื้นผิวอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดแสงสลัว ปัญหาเหล่านี้ได้ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้วในการปรับปรุงความสามารถครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อบกพร่องต่าง ๆ ในส่วนนี้ ที่ได้รับการแก้ไขในบริการเรนเดอร์ผลงานผ่านระบบคลาวด์ Autodesk Revit Cloud Rendering จะยังไม่ได้รับการแก้ไขในซอฟต์แวร์ Autodesk Revit โดยจะมีการปรับปรุงและมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Autodesk Revit ในเวอร์ชันถัดไป
Water Wave Height
ด้วยวัสดุน้ำในรูปแบบเก่าที่เกิดข้อผิดพลาดในส่วนของระดับความสูงของคลื่นที่ทำให้ผลงานดูไม่สมจริง เนื่องจากการที่ไม่มีหน่วยวัดสำหรับใช้ในการตั้งค่า ซึ่งสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วยการปรับตั้งค่าของวัสดุ ที่คุณสามรถตั้งค่าได้ให้เหมาะสมกับงานของคุณ
Scenes with no lights
ในการเรนเดอร์เพื่อแสดงผลฉากที่ไม่มีแสงสว่างใด ๆ หรือมีลักษณะเป็นพื้นที่ปิดและไม่มีแหล่งกำเนิดแสงสว่าง ด้วยเอนจิ้นในการเรนเดอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้การแสดงผลจะออกมาในลักษณะของภาพสีดำทั้งภาพ แทนที่การแสดงผลแบบเดิม
Panoramas
ความสามารถในการสร้างภาพแบบ Panorama จะไม่รองรับการใช้งานตัวเลือกในการใช้งานสีพื้นหลังแบบทึบอีกต่อไป ทั้งนี้ คุณสามารถทำการดาวน์โหลดภาพแบบ Panorama ด้วย Alpha channel และสามารถเพิ่มสีแบบทึบของพื้นหลังตามที่คุณต้องการ ได้จากซอฟต์แวร์สำหรับการตกแต่งภาพต่าง ๆ
Emissive decals
สำหรับภาพที่มีลักษณะในการเปล่งแสงออกมา เช่น ภาพจากจอภาพต่างๆ สามารถทำได้แล้วโดยใช้บนพื้นฐานจากวัตถุแบบทึบแสงแบบใหม่ของ Revit ซึ่งรับรองได้ว่าภาพที่ออกมาจะมีความถูกต้องและสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
IES web orientation
ในการปรับปรุงครั้งนี้ ได้มีการแก้ไขปัญหาที่พบในส่วนของ IES web ที่มีการหมุนไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรระวังในกรณีที่จะทำการเรนเดอร์ไฟล์งานชิ้นเดิมของคุณ เพราะอาจเกิดแสงในลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิมได้
Missing textures behavior
สำหรับ Texture หรือ พื้นผิว ที่ระบบได้ทำการตรวจสอบแล้วไม่พบข้อมูล ระบบจะทำการแทนที่พื้นผิวนั้นด้วยสีดำจากเดิมที่เคยถูกแทนที่ด้วยสีขาวแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ ก่อนการอัพโหลดข้อมูลเพื่อประมวลผลซีนสำหรับการเรนเดอร์ ผ่าน Revit exporter ระบบจะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับพื้นผิวต่าง ๆ ที่ตรวจสอบแล้วไม่พบข้อมูล เพื่อให้ทำการตรวจสอบและยอมรับว่าจะไม่สามารถใช้งานวัสดุเหล่านั้นได้
Performance
ด้วยการปรับปรุงความสามารถในครั้งนี้ ผู้ใช้งานจะเห็นได้ถึงการเพิ่มเติมประสิทธิภาพสำหรับการเรนเดอร์ภาพ ในกรณีที่ทำการเรนเดอร์เฟรมจำนวนมาก โดยข้อมูลของเฟรมต่าง ๆ จะถูกส่งและกระจายออกไปยังโหนดต่าง ๆ ในระบบคลาวด์ เพื่อไปทำการประมวลผลและเรนเดอร์ แทนที่จะทำการเรนเดอร์ตามลำดับจากโหนดเพียงที่เดียว
New Post Processing tool
จากการปรับปรุงความสามารถในครั้งนี้ Autodesk Revit Cloud Rendering มาพร้อมกับเครื่องมือรูปแบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเติมความสามารถต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม สำหรับการปรับตั้งค่าแสงภายหลังจากการเรนเดอร์ภาพ เพื่อทดแทนเครื่องมือ Exposure Adjustment ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
โดยเครื่องมือใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ Preset ของแสงในรูปแบบต่าง ๆ ที่ถูกค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น linear, neutral, mild และ vivid ที่ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนลักษณะโทนสีของภาพได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้คุณยังคงสามารถปรับค่าต่าง ๆ เพื่อให้ภาพออกมาตามลักษณะที่ผู้ใช้งานต้องการได้เองจากเครื่องมือแบบเดิมได้อีกด้วย
นอกจากนี้ด้วยความสามารถของ Bloom Effect ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ จะมีประโยชน์อย่างมากในการเพิ่มเติมความสมจริงให้กับงานของคุณ ด้วยการจำลองแสงความถี่ต่ำในระหว่างพิกเซล ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้จะสามารถพบได้ในกล้องถ่ายภาพและสายตาของมนุษย์
Viewer changes for multi-frames renderings
เมื่อคุณมีการเรนเดอร์ภาพที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการประมวลผลจำนวนหลาย ๆ เฟรม เช่น Solar Study และ Turntable ด้วยการปรับปรุงความสามารถในครั้งนี้ ทำให้คุณสามารถเห็นความคืบหน้าในการเรนเดอร์ของแต่ละเฟรมได้แล้ว
Download menu for solar study
ด้วยการปรับปรุงความสามารถของ Autodesk Revit Cloud Rendering ในครั้งนี้ มาพร้อมกับตัวเลือกใหม่ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อจะทำให้คุณสามารถทำการดาวน์โหลดข้อมูล Solar Study ได้ในรูปแบบของวีดีโอ นอกเหนือจากเดิมที่สามารถดาวน์โหลดได้แต่ในรูปแบบของไฟล์ ZIP เท่านั้น
Overlapping geometry
ในกรณีที่คุณเห็นวัตถุในลักษณะวงกลมบนพื้นผิวต่าง ๆ นั่นอาจเกิดจากการทับซ้อนกันทางเรขาคณิต ผู้ใช้งานจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผนัง เพดาน พื้น และกระจกของคุณไม่ได้มีการซ้ำซ้อนหรือมีการตัดกัน เนื่องจากซอฟต์แวร์ในการเรนเดอร์จะไม่สามารถทำการเลือกวัสดุของพื้นผิวได้อย่างสม่ำเสมอ
Coincident lights geometry
ในกรณีที่ผู้ใช้งานมีการวางรูปทรงของแสงตรงกับรูปทรงของโคมไฟ อาจส่งผลทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการกระจายแสงหรือเกิดผลกระทบในการมองเห็น ผู้ใช้งานจึงควรทำการตรวจสอบว่าได้ทำการแยกแหล่งกำเนิดแสงออกไปเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ในระหว่างการใช้งานอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ ในกรณีที่แสงถูกวางไว้บริเวณด้านหลังของวัตถุโปร่งแสง หรือวัสดุกึ่งโปร่งแสง เนื่องจากการเรนเดอร์จะต้องใช้เวลาเพื่อแก้ไขเส้นทางไปยังจุดกำเนิดแสง ซึ่งผู้ใช้งานอาจทำการแก้ไขปัญหาด้วยการวางแสงไว้ด้านหน้า และเลือกใช้วัสดุที่ให้กำเนิดแสงอ่อน ๆ เพื่อใช้บริเวณด้านหลัง
Point lights visible in reflections
ในกรณีที่คุณใช้ไฟเพื่อเพิ่มแสงสว่างในพื้นที่รอบข้าง คุณจะพบว่าหลอดไฟเหล่านั้นจะมีการปรากฏเป็นภาพสะท้อนบนกระจกเงาและพื้นผิวที่เป็นกระจก ซึ่งคุณสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการนำแหล่งกำเนิดแสงนั้นออก และใช้วิธีการเพิ่มแสงจริงจากตัวเรนเดอร์ โดยคุณสามารถทำการปรับค่าแสงให้สว่างได้ตามที่ต้องการภายหลังจากการเรนเดอร์ได้
Panorama and Stereo Panorama rendering
ในการแสดงตัวอย่างของผลการเรนเดอร์แบบ progressive จะไม่มีการแสดงเฟรมทั้งหมดเสมอ โดยจะมีการแสดงเฉพาะเฟรมที่กำลังดำเนินการหรือเฟรมที่เสร้จสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ หากผู้ใช้งานทำการตั้งค่าการเปิดรับแสงขั้นสูง การแสดงผลตัวอย่างการเรนเดอร์แบบ Progressive จะมีการเปิดรับแสงที่แตกต่างจากค่าแสงสุดท้าย
สำหรับท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์คุณภาพจาก Autodesk สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อซอฟต์แวร์ได้ที่
ฝ่ายขาย บริษัท วี อาร์ ดิจิตอล จำกัด
หมายเลขโทรศัพท์ 02 267 6388-9 หรือที่อีเมล์ sales@vr-3d.com