ซอฟต์แวร์ Revit 2021 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
ซอฟต์แวร์สำหรับการทำงานร่วมกับแบบจำลองสารสนเทศอาคาร (BIM)
สำหรับการทำงานแบบสหวิชาชีพ เพื่อการออกแบบโมเดลคุณภาพสูง และการออกแบบร่วมกัน
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา Autodesk ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลกสำหรับการผลิตทางด้านการออกแบบในรูปแบบ 3 มิติ วิศวกรรม และผลงานด้านความบันเทิง ได้เปิดตัว Autodesk Revit 2021 ซอฟต์แวร์สำหรับการทำงานร่วมกับแบบจำลองสารสนเทศอาคาร หรือ Building information modeling (BIM) อย่างเป็นทางการ ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การทำให้ซอฟต์แวร์ Revit ดีขึ้นสำหรับการใช้งานในทุกสาขาวิชาชีพ ซึ่งมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ ผลิตภาพและการใช้งานที่ง่าย, การทำงานร่วมกันและการแลกเปลี่ยนข้อมูล และปรับปรุงการสร้าง visualization ให้ดีมากยิ่งขึ้น
โดย Autodesk Revit 2021 มาพร้อมกับการอัพเกรดจากข้อเสนอแนะของผู้ใช้งาน การปรับปรุงคุณสมบัติหลักในส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึง Generative Design ซึ่งมีรายละเอียดของความสามารถใหม่ ๆ รวมถึงการปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ ดังนี้
ความสามารถใหม่ ๆ รวมถึงการปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับ Revit 2021
> ส่วนที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม (Platform)
PDF and Image Linking
ด้วยความสามารถของ Revit 2021 ทำให้คุณสามารถลิงค์ไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์แบบ PDF เข้ามาใช้งานในโมเดลของคุณ โดยคุณสามารถทำการลิงค์ไฟล์ได้ทั้งไฟล์ที่ถูกจัดเก็บในแบบโลคอล และในระบบคลาวด์ ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยให้การอัพเดทข้อมูลสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยลดขนาดของไฟล์จากการนำเข้าข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้งานอีกด้วย
Improved BIM 360 Project Navigation in Revit Home
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 จะมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น สำหรับการเข้าถึงโครงการที่ถูกจัดเก็บอยู่ใน BIM 360 ผ่านทางหน้า Revit Home screen ด้วยการแยกกันอย่างชัดเจนระหว่างไฟล์ล่าสุดที่คุณใช้งาน และไฟล์ที่ถูกจัดเก็บไว้บนระบบคลาวด์ของ BIM 360 พร้อมด้วยความสามารถในการค้นหาที่ทำให้ง่ายต่อการค้นหาโครงการที่คุณต้องการ
Customized Revit Workspace
ความสามารถในการปรับแต่ง Workspace ที่มาพร้อมกับ Revit 2021 จะช่วยพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถเลือกลักษณะของงานและบทบาทหน้าที่ของผู้ใช้ ในการเปิดใช้งานซอฟต์แวร์ครั้งแรก เพื่อให้ซอฟต์แวร์แนะนำ Workspace และเครื่องมือที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด ซึ่งคุณสามารถปรับค่านี้ได้ในภายหลังตามที่ต้องการ
Row Striping for Schedules
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ในส่วนของ Schedule Properties เพื่อให้ซอฟต์แวร์ทำการแสดงผลตาราง Schedule ด้วยการสลับสีของแถวให้มีความแตกต่างกัน ที่คุณสามารถกำหนดสีได้เองตามที่คุณต้องการ ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและง่ายต่อการอ่านข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีข้อมูลใน Schedule เป็นจำนวนมาก
Infrastructure Discipline and Bridge Categories
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการยกระดับความสามารถของซอฟต์แวร์ เพื่อให้รองรับกับการออกแบบสะพานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม "Infrastructure" เป็นหนึ่งใน Discipline สำหรับการกรองข้อมูลตามหมวดหมู่ รวมถึงการเพิ่มหมวดหมู่ หมวดหมู่ย่อย และคำอธิบายหมวดหมู่ เพื่อช่วยในการจัดการการแสดงผลขององค์ประกอบที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
Dynamo 2.5 Installed & New Dynamo Revit Nodes
เมื่อคุณติดตั้งซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณจะพบกับ Dynamo 2.5 ที่ถูกติดตั้งมาพร้อมกับความสามารถใหม่ ๆ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน ที่ทำให้คุณสามารถใช้เวลาที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญในการประมวลผลกราฟที่มีขนาดใหญ่และส่งผลต่อโมเดล Revit ของคุณ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Dynamo Revit Nodes อีกมากถึง 10 Node เพื่อสนับสนุนการทำงานในเงื่อนไขต่าง ๆ ของคุณอีกด้วย
Enable View Filters in View
ด้วยความสามารถนี้ ทำให้ผู้ใช้งาน Revit 2021 สามารถสร้างตัวกรองสำหรับมุมมองเพื่อใช้ควบคุมการแสดงผลกราฟฟิกขององค์ประกอบต่าง ๆ ในโมเดลของคุณ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปที่แถบ Filters จากเครื่องมือ Visibility/Graphics Overrides เพื่อเลือกเปิดหรือปิดการแสดงผลกราฟฟิกได้อย่างรวดเร็วตามที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องทำการลบตัวกรองเหล่านั้นอีกต่อไป
Rotate Tags with Components Improvements
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการพัฒนาความสามารถในการควบคุม Tag ข้อมูลที่กำหนดให้กับส่วนประกอบต่าง ๆ ในโมเดล โดยการปรับปรุงนี้ทำให้ Tag ข้อมูลสามารถหมุนไปพร้อมกันกับส่วนประกอบนั้น ๆ ด้วยการเลือกที่แก้ไข Tag ใน Family editor และเปิดใช้งานพารามิเตอร์ "Rotate with component" ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการอ่านและทำความเข้าใจส่วนประกอบในโมเดลของคุณได้เป็นอย่างดี
Voids Cut Family Geometry Type and Instance Parameters
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับความสามารถที่ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานฟังก์ชั่น Void ในส่วนของ Family ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดย Void มักถูกใช้งานมากใน Revit families ซึ่งในบางครั้งจะมีการใช้เพื่อกำหนดความแตกต่างระหว่างประเภทของ Family และด้วยการปรับปรุงนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ families ต่าง ๆ เช่น เคาน์เตอร์ครัว หรือ หน้าต่าง ที่มักมีลักษณะที่แตกต่างกัน
> ส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสถาปัตยกรรม (Architecture)
Generative Design
คุณสามารถใช้งานความสามารถในการสร้าง generative design ได้โดยตรงจากซอฟต์แวร์ Revit 2021 เพื่อสร้างทางเลือกในการออกแบบต่าง ๆ ตามเป้าหมายที่คุณต้องการ ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มี รวมถึงข้อมูลที่นำเข้าไปประมวลผล โดยคุณสามารถกรองผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการของคุณ และนำไปใช้งานในโมเดลของคุณได้ทันที ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการทำงานของคุณได้เป็นอย่างดี
Real-time Realistic Views
ด้วยความสามารถในการแสดงผลมุมมองของงานออกแบบที่สมจริงได้แบบเรียลไทม์ ที่มาทดแทนโหมด Realistic views ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารงานออกแบบของคุณให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณสามารถทำการแก้ไขโมเดลได้โดยตรงด้วยวัสดุและแสงที่มีความสมจริง ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี ง่าย และรวดเร็วกว่าเดิมมากกว่า 10 เท่า (คอมพิวเตอร์ที่จะใช้งานต้องมี Graphic Card ที่มีหน่วยความจำอย่างน้อย 4GB หรือมากกว่า)
Slanted Walls
ด้วยซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถสร้างหรือกำหนดค่าของผนังให้มีลักษณะเอียงตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ด้วยการตั้งค่าผ่านพารามิเตอร์ Cross-Section และกำหนดองศาการเอียงของผนังได้จากพารามิเตอร์ Angle from Vertical โดยคุณยังสามารถตั้งค่าให้กับส่วนประกอบของประตูและหน้าต่าง ที่ยึดอยู่กับผนังดังกล่าว ให้มีลักษณะตั้งฉากหรือเอียงตามลักษณะของผนังได้ตามที่ต้องการอีกด้วย
Revit to Inventor Linking
ด้วยความสามารถของซอฟต์แวร์ Autodesk Inventor 2021 ที่ขยายความสามารถของ AnyCAD สำหรับทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Revit 2021 ช่วยให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมก่อสร้างสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสอดประสาน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลจาก Revit และ Inventor เข้าด้วยกัน ทั้งในรูปแบบของโลคอลไฟล์หรือไฟล์ที่จัดเก็บไว้บนระบบคลาวด์ของ BIM 360 ซึ่งหากโมเดล Revit ที่อ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนที่เกี่ยวข้อง จะมีการอัพเดทข้อมูลอย่างอัตโนมัติและแจ้งเตือนผู้ใช้ Inventor ทำให้ไม่ต้องทำการแปลงไฟล์ต่าง ๆ ให้วุ่นวายอีกต่อไป
> ส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านโครงสร้าง (Structure)
Create New Standard 3D Rebar Shapes
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถกำหนดรูปร่างของส่วนประกอบเหล็กเส้นสำหรับการเสริมแรง หรือ Standees แบบ 3 มิติได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการหมุนที่บริเวณปลายของขอเกี่ยว รวมถึงการกำหนดความยาวของขอเกี่ยวแต่ละด้านตามที่ต้องการ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ส่วนประกอบเสริมแรงแบบ 3 มิตินี้ เพื่อเสริมกำลังด้วยการกระจายไปในงานโครงสร้างของคุณได้อีกด้วย
Couplers for Arc-shaped Rebar
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถใช้งานตัวเชื่อมต่อเหล็กเส้น หรือ Coupler เพื่อเชื่อมต่อเหล็กเส้นในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีลักษณะทรงโค้ง เช่น ผนังทรงโค้ง ถังคอนกรีต อุโมงค์ และอื่น ๆ ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยเหลือวิศวกรโครงสร้าง ในการสร้างโมเดลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสริมแรงในโครงสร้างคอนกรีตที่มีรายละเอียดสูงได้เป็นอย่างดี
End Treatments without Couplers for Rebar
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถเพิ่ม End Treatment ไปยังจุดสิ้นสุดของเหล็กเส้นต่าง ๆ ในโมเดลของคุณ โดยไม่ต้องใช้ตัวเชื่อมต่อเหล็กเส้นอีกต่อไป ด้วยวิธีการอย่างง่าย ๆ เพียงทำเลือกกำหนดค่า Treated หรือ Welded ในพารามิเตอร์ End Treatment at Start หรือ End Treatment at End ตามที่ต้องการ ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยให้วิศวกรโครงสร้างสามารถควบคุมการเสริมแรงของโครงสร้างในโมเดลได้ดีมากยิ่งขึ้น
3D Solid Fabric Sheets Visualization
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถดู Fabric Sheets และ Fabric Sheets แบบกำหนดเองได้ในมุมมองแบบ 3 มิติ ทั้งในรูปแบบ Solid หรือ Unobscured โดยคุณสามารถเปิดใช้งานความสามารถนี้ได้ในลักษณะเดียวกันกับการเสริมแรงในโครงสร้างรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยให้วิศวกรโครงสร้าง สามารถประสานงานและลดการปะทะที่อาจเกิดขึ้นของโครงสร้าง ผ่านการแสดงภาพของการเสริมแรงของโครงสร้างที่ดีมากยิ่งขึ้น
Override Hook Lengths by Instance
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถทำการระบุความยาวของเหล็กเส้นที่มีลักษณะเป็น Hook ในโครงการของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องทำการคัดลอกและเปลี่ยนความยาวของ Hook เพียงเลือกที่ตัวเลือก Override Hook Lengths ในส่วนของ Properties และทำการป้อนค่าความยาวของเหล็กเส้นในพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องตามที่ต้องการ ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโครงสร้างของคุณได้เป็นอย่างดี
Integrated Precast Automation
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการผนวกเอาความสามารถของเครื่องมือ Structural Precast Extension เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของซอฟต์แวร์ ซึ่งคุณสามารถใช้งานความสามารถต่าง ๆ ได้จากแท๊บ "Precast" โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงปุ่ม On/Off ที่มีอยู่เดิม ด้วยปุ่ม Enable/Disable Precast Updates ที่จะช่วยป้องกันการสร้างส่วนประกอบพรีแคสใหม่โดยอัตโนมัติจากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยสนับสนุนขั้นตอนต่าง ๆ ในกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับงานพรีแคสได้ดีมากยิ่งขึ้น
Integrated Steel Connection Automation Nodes in Dynamo for Revit
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับ Dynamo Node ที่ใช้สำหรับการวางการเชื่อมต่อเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Dynamo for Revit ทำให้ความสามารถต่าง ๆ ของ Autodesk Steel Connections ที่รวมถึง Node และสคริปต์ตัวอย่าง จะพร้อมใช้งานในทันทีใน Dynamo for Revit โดยที่คุณไม่ต้องทำการตั้งค่าใด ๆ เพิ่มเติมในภายหลัง ด้วย Node เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับงานออกแบบได้ดียิ่งขึ้น เมื่อต้องทำการเพิ่มการเชื่อมต่อเหล็กเข้ากับโมเดลของคุณ
Integrated Structural Analysis Results Exploration
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 มีการผนวกรวมเครื่องมือ Structural Results Manager และ Results Exploration เข้ามาในการติดตั้งซอฟต์แวร์ โดยเครื่องมือนี้จะช่วยให้วิศวกรโครงสร้างสามารถสำรวจและจัดทำผลการวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของโครงสร้าง และช่วยในการตัดสินใจด้านการออกแบบ ซึ่งผลการวิเคราะห์จะถูกนำเสนอผ่าน Revit ในรูปแบบของกราฟฟิกตามองค์ประกอบที่คุณใช้ในการวิเคราะห์ โดยการบูรณาการนี้จะช่วยเชื่อมต่อระหว่างงานออกแบบ และการวิเคราะห์ของวิศวกรโครงสร้างได้เป็นอย่างดี
Steel Object Editing Enhancements
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการปรับปรุงความสามารถเพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นในการแก้ไขรายละเอียดของส่วนประกอบที่เป็นโครงสร้างเหล็ก รวมถึงการเชื่อมต่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งรูปร่างของเพลทเหล็ก ลักษณะการตัดของเหล็ก รวมถึงขนาดของช่องทรงวงกลมได้ตามที่ต้องการ ซึ่งการปรับปรุงนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการทำงานโครงสร้างเหล็กบนซอฟต์แวร์ Revit ได้เป็นอย่างดี
Create Stiffeners on Beams and Columns
Stiffener ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของการออกแบบโครงสร้างเหล็ก เนื่องจากใช้ในการเสริมความแข็งแรงของคานและเสา โดยซอฟต์แวร์ Revit 2020 มาพร้อมกับเครื่องมือที่มีความสามารถเฉพาะสำหรับการสร้าง Stiffener ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่าใน Structural Connection โดยเมื่อคุณทำการโหลดเข้ามาในโครงการ คุณจะสามารถใช้งานและแทรก Stiffener ด้วยการระบุจุดที่ต้องการแทรก และสามารถย้ายหรือคัดลอกไปยังจุดอื่น ๆ ของโครงสร้างได้ตามที่คุณต้องการ
Insert Steel Elements in Vertical Views
ด้วยซอฟต์แวร์ Revit 2021 ที่มาพร้อมกับความสามารถในการใส่ส่วนประกอบของเหล็กได้ในมุมมองแบบ Vertical ทำให้ข้อจำกัดที่เคยมีในการแทรกส่วนประกอบของเหล็กทั้งในมุมมองแบบ 3 มิติ และแบบ 2 มิติ หมดสิ้นไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยสร้างอิสระแก่ผู้ใช้งานในการทำงานร่วมกับกับโมเดลที่มีลักษณะของโครงสร้างเหล็กได้เป็นอย่างดี
Dimensions Snapping to Steel Plates
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถสร้างการวัดระยะห่างจากบริเวณขอบของแผ่นเหล็กถึงจุดศูนย์กลางทั้งในแนวตั้งและแนวนอนเพื่อเพิ่มความแม่นยำ สำหรับในส่วนของ Stiffener และแผ่นเพลทเชื่อมต่อ การปรับปรุงนี้จะช่วยให้คุณสามารถวัดระยะห่างจากจุดกึ่งกลางหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งค่าที่แสดงระยะห่างจะมีการอัพเดทโดยอัตโนมัติ ด้วยความสามารถเหล่านี้จะช่วยสร้างความแม่นยำให้กับเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ
> ส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานระบบอาคาร (MEP)
Electrical Circuit Naming
ในซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการรองรับการกำหนดชื่อรูปแบบของวงจร ด้วยการเพิ่มโหนดใหม่ที่สามารถเข้าถึงได้จาก Electrical Settings ชื่อว่า Circuit Naming ซึ่ง Circuit Naming ที่ผู้ใช้งานได้ทำการสร้างขึ้นนี้ จะถูกแสดงเป็นตัวเลือกของพารามิเตอร์ในแต่ละแผงวงจร โดยคุณสามารถเลือกรูปแบบที่ต้องการใช้สำหรับแผงวงจรทั้งหมดที่มีการกำหนดค่าไว้ในรูปแบบของ Project Setting ซึ่งความสามารถนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการตั้งชื่อรูปแบบวงจรในโครงการของคุณ
Single Phase L-N Panelboards
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการรองรับ single phase L-N panelboards ในโครงการของคุณ โดยสามารถแสดงผล Single Bus Column ใน Panel Schedule templates ที่มีการแสดงผลเพียงเฟสเดียว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำการซ่อนคอลัมน์ที่ไม่ได้มีการใช้งานทั้งหมดใน Schedule ด้วยตัวเลือก "Hide column for third phase" นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ยังมาพร้อมกับความสามารถในการแจ้งเตือนสำหรับกรณีที่มีการเชื่อมต่อที่ไม่ตรงกันอีกด้วย
Switchboard Circuit Quantity
ด้วยซอฟต์แวร์ Revit 2021 คุณสามารถกำหนดจำนวนวงจรสูงสุดของแต่ละแผงสวิตช์ เพื่อใช้ในการควบคุมจำนวนแถวของ Schedule รวมถึงการเลือกเฟสของเซอร์กิตที่จะเชื่อมต่อกับแผงสวิตช์ ที่จะช่วยในการสื่อสารความต้องการงานออกแบบและวิเคราะห์โหลดของระบบไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับแก้ค่าพารามิเตอร์ในส่วนของ Spare และ Spaces ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยปรับระบบแนวคิดในการจ่ายประแสไฟฟ้าของซอฟต์แวร์ Revit ได้เป็นอย่างดี
Switchboard Circuit Phase Selection
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 ที่มาพร้อมกับการเพิ่มเติมคำสั่ง “Switch Phases” เมื่อคุณทำการเลือกวงจรไฟฟ้า ในมุมมอง Switchboard Panel Schedule view สำหรับช่วยในการสลับเฟสที่วงจรไฟฟ้าทำการเชื่อมต่อ นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์ของ Spares และ Spaces เช่น Poles และ Frame Size ซึ่งความสามารถเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารงานออกแบบและวอเคราะห์โหลดของระบบไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น
Panel Schedule Nodes Listed Under Sheets in Project Browser
ด้วยการปรับปรุงในซอฟต์แวร์ Revit 2021 ทำให้ Project Browser สามารถแสดงรายการ Panel Schedule ภายใต้แต่ละ Sheet ที่ได้ทำการวางไว้ ซึ่งการปรับปรุงช่วยให้เกิดความสอดคล้องกับคุณลักษณะอื่น ๆ ของ Project Browser และสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการในโครงการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถทำการค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ใน Project Browser อีกด้วย
MEP Worksharing Enhancements
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 มาพร้อมกับการปรับปรุงการทำงานร่วมกันในส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับระบบ MEP ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานมีการ borrowed ส่วนประกอบ MEP ต่าง ๆ ในโมเดล เพื่อทำการปรับแก้ไขในรายละเอียด ส่วนประกอบ MEP อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะไม่ถูก borrowed เหมือนกับในซอฟต์แวร์เวอร์ชันที่ผ่านมา ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การทำงานร่วมกันสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคย
P&ID Modeler on BIM 360 Docs
ด้วย Revit connector for P&ID จะช่วยสร้างการเชื่อมต่อระหว่างซอฟต์แวร์ Revit และ Plant 3D P&ID schematic diagrams ที่ทำให้คุณสามารถสร้างแบบจำลองระบบท่อในซอฟต์แวร์ Revit ได้จาก BIM 360 Docs โดยเมื่อซอฟต์แวร์ Revit มีการเชื่อมต่อ Plant 3D collaboration project เรียบร้อยแล้ว P&ID diagram จะพร้อมใช้งาน พร้อมด้วยรายการของส่วนประกอบที่อยู่ใน diagram พร้อมทั้ง color-coded เพื่อให้คุณสามารถใช้วางตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง
MEP Systems Analysis
ด้วยความสามารถในการ Systems Analysis ของซอฟต์แวร์ Revit จะช่วยขยายขีดความสามารถของ Autodesk Insight ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลพื้นที่และภูมิอากาศ เพื่อทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพทั้งหมดของอาคาร ซึ่งนักออกแบบสามารถกำหนดโซน ติดตั้งอุปกรณ์ในเบื้องต้น และสามารถตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะเริ่มทำการวิเคราะห์ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ทั้ง Annual building performance, Calculating loads and sizing และการวิเคราะห์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามที่ต้องการ
Other Additions and Improvements
ซอฟต์แวร์ Revit 2021 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงในส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อมกับการรองรับหน่วยการไหลของท่อในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มเติมตามความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อชั่วโมง ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที และลิตรต่อชั่วโมง รวมถึงการผสมผสานส่วนของการ MEP Fabrication Extension เข้ามาอยู่ในแถบเมนูต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น MEP Fabrication Export ที่สามารถใช้งานได้จากเมนูสำหรับการ Export ที่อยู่ใน File tab, การ Import MEP Fabrication Job เข้ามาอยู่ใน Insert tab และการ Export Job File เข้ามาอยู่ใน Contextual Ribbon tab
ความต้องการของระบบสำหรับซอฟต์แวร์ Revit 2021
System requirements for Revit 2021
Minimum: Entry-Level Configuration
Operating System | 64-bit Microsoft® Windows® 10. See Autodesk’s Product Support Lifecycle for support information. |
Processor | – Single- or Multi-Core Intel®, Xeon®, or i-Series processor or AMD® equivalent with SSE2 technology. Highest affordable CPU speed rating recommended. – Autodesk® Revit® software products use multiple cores for many tasks. |
Memory | 8 GB RAM – Usually sufficient for a typical editing session for a single model up to approximately 100 MB on disk. This estimate is based on internal testing and customer reports. Individual models will vary in their use of computer resources and performance characteristics. – Models created in previous versions of Revit software products may require more available memory for the one-time upgrade process. |
Display resolution | Minimum: 1280 x 1024 with true color Maximum: UltraHigh (4k) Definition Monitor |
Disk space | 30 GB free disk space |
Pointing device | MS-Mouse or 3Dconnexion® compliant device |
Video Adapter | Basic Graphics: Display adapter capable of 24-bit color Advanced Graphics: DirectX® 11 capable graphics card with Shader Model 5 and a minimum of 4GB of video memory |
.NET Framework | .NET Framework Version 4.8 or later. |
Browser | Microsoft® Internet Explorer® 10 (or higher) |
Network | Internet connection for license registration and prerequisite component download |
System requirements for Revit 2021
Value: Balanced price and performance
Operating System | 64-bit Microsoft® Windows® 10. See Autodesk’s Product Support Lifecycle for support information. |
Processor | – Single- or Multi-Core Intel®, Xeon®, or i-Series processor or AMD® equivalent with SSE2 technology. Highest affordable CPU speed rating recommended. – Autodesk® Revit® software products use multiple cores for many tasks. |
Memory | 16 GB RAM – Usually sufficient for a typical editing session for a single model up to approximately 300 MB on disk. This estimate is based on internal testing and customer reports. Individual models will vary in their use of computer resources and performance characteristics. – Models created in previous versions of Revit software products may require more available memory for the one-time upgrade process. |
Display resolution | Minimum: 1680 x 1050 with true color Maximum: UltraHigh (4k) Definition Monitor |
Disk space | 30 GB free disk space |
Pointing device | MS-Mouse or 3Dconnexion® compliant device |
Video Adapter | DirectX 11 capable graphics card with Shader Model 5 and a minimum of 4GB of video memory. |
.NET Framework | .NET Framework Version 4.8 or later. |
Browser | Microsoft® Internet Explorer® 10 (or higher) |
Network | Internet connection for license registration and prerequisite component download |
System requirements for Revit 2021
Performance: Large, complex models
Operating System | 64-bit Microsoft® Windows® 10. See Autodesk’s Product Support Lifecycle for support information. |
Processor | – Single- or Multi-Core Intel®, Xeon®, or i-Series processor or AMD® equivalent with SSE2 technology. Highest affordable CPU speed rating recommended. – Autodesk® Revit® software products use multiple cores for many tasks. |
Memory | 32 GB RAM – Usually sufficient for a typical editing session for a single model up to approximately 700 MB on disk. This estimate is based on internal testing and customer reports. Individual models will vary in their use of computer resources and performance characteristics. – Models created in previous versions of Revit software products may require more available memory for the one-time upgrade process. |
Display resolution | Minimum: 1920 x 1200 with true color Maximum: UltraHigh (4k) Definition Monitor |
Disk space | – 30 GB free disk space – 10,000+ RPM HardDrive (for Point Cloud interactions) or Solid State Drive |
Pointing device | MS-Mouse or 3Dconnexion® compliant device |
Video Adapter | DirectX® 11 capable graphics card with Shader Model 5 and a minimum of 4GB of video memory |
.NET Framework | .NET Framework Version 4.8 or later. |
Browser | Microsoft® Internet Explorer® 10 (or higher) |
Network | Internet connection for license registration and prerequisite component download |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ Revit 2021
สำหรับท่านที่สนใจซอฟต์แวร์ Autodesk Revit 2021 หรือ ซอฟต์แวร์อื่น ๆ จาก Autodesk
ท่านสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อซอฟต์แวร์ได้ที่
ฝ่ายขาย บริษัท วี อาร์ ดิจิตอล จำกัด
หมายเลขโทรศัพท์ 02 267 6388-9 หรือที่อีเมล์ info@vr-3d.com